การประเมิน ITA พม.โปร่งใส

สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดร้อยเอ็ด


การประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ(Integrity and Transparency Assessment – ITA)การเปิดเผยข้อมูล (Open Data Integrity and Transparency Assessment: OIT)

ข้อ ประเด็นการประเมิน วิธีดำเนินการเพื่อรองรับการประเมิน ลิ้งก์
O1 โครงสร้าง (1) มีการเปิดเผยข้อมูลบนเว็บไซต์หลักของกระทรวงให้เป็นปัจจุบัน อาทิ แผนผังแสดงโครงสร้างการแบ่งส่วนราชการของหน่วยงาน ตำแหน่งที่สำคัญ และการแบ่งส่วนงานภายใน เช่น สำนัก กอง ศูนย์ ฝ่าย ส่วน กลุ่ม เป็นต้น – โครงสร้างอำนาจหน้าที่แผนภูมิ
– โครงสร้างแบ่งส่วนราชการภารกิจ/อำนาจหน้าที่
O2 ข้อมูลผู้บริหาร (2) แสดงรายนามของผู้บริหารของหน่วยงาน(ชื่อ- นามสกุล ตำแหน่ง รูปถ่าย ช่องทางการติดต่อ) ผู้บริหารสูงสุด(ปพม.) และผู้ดำรงตำแหน่งทางการบริหารของหน่วยงาน แสดงข้อมูลหน้าที่และอำนาจของหน่วยงานตามที่กำหนด แผนการดำเนินภารกิจของหน่วยงานที่มีระยะมากกว่า 1 ปี มีข้อมูลรายละเอียดของแผนฯ เช่น ยุทธศาสตร์หรือแนวทางเป้าหมาย ตัวชี้วัด เป็นต้น เป็นแผนที่มีระยะเวลาบังคับใช้ครอบคลุมปี พ.ศ.2564 – คณะผู้บริหารกระทรวง พม. / ทำเนียบบุคลากร สนง.พมจ.ร้อยเอ็ด
O3 อำนาจหน้าที่ (3) แสดงข้อมูลหน้าที่และอำนาจของหน่วยงานตามที่กฎหมายกำหนด – โครงสร้าง/หน้าที่/วิสัยทัศน์
– กฎกระทรวง พม.
– กฎกระทรวง พม. (ฉบับที่ 2)
O4 แผนยุทธศาสตร์หรือแผนพัฒนาหน่วยงาน (4) แสดงแผนการดำเนินภารกิจของหน่วยงานที่มีระยะมากกว่า 1 ปี มีข้อมูลรายละเอียดของแผนฯ ยกตัวอย่างเช่น ยุทธศาสตร์หรือแนวทาง เป้าหมาย ตัวชี้วัด เป็นต้น และเป็นแผนที่มีระยะเวลาบังคับใช้ครอบคลุมปี พ.ศ. 2564 – ยุทธศาสตร์/แผนปฏิบัติ
– แผนยุทธศาสตร์ สป. 5 ปี
– แผนแม่บทการพัฒนาศักยภาพคนไทยตามช่วงวัย พ.ศ. 2561-2579
– แผนปฏิบัติการประจำปี
O5 ข้อมูลการติดต่อ (5) แสดงข้อมูลการติดต่อ อย่างน้อยประกอบด้วย ที่อยู่หน่วยงาน หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขโทรสาร ที่อยู่ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ แผนที่ตั้งหน่วยงาน – ติดต่อเรา
O6 กฎหมายที่เกี่ยวข้อง (6) แสดงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานหรือการปฏิบัติงานของหน่วยงาน – กฎหมาย พม.
O7 ข่าวประชาสัมพันธ์ (7) แสดงข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานตามอำนาจหน้าที่หรือภารกิจของหน่วยงาน เป็นข้อมูลข่าวสารที่เกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2564 – ข่าวสารข่าวประชาสัมพันธ์
O8 Q&A (8) แสดงตำแหน่งบนเว็บไซต์ของหน่วยงานที่บุคคลภายนอกสามารถสอบถามข้อมูลต่าง ๆ ได้ และหน่วยงานสามารถสื่อสารให้คาตอบกับผู้สอบถามได้ โดยมีลักษณะเป็นการสื่อสารได้สองทาง (Q&A) ยกตัวอย่างเช่น Web board, กล่องข้อความถาม-ตอบ เป็นต้น – ถาม-ตอบ
O9 Social Network (9) แสดงตำแหน่งบนเว็บไซต์ของหน่วยงานที่สามารถเชื่อมโยงไปยังเครือข่ายสังคมออนไลน์ของหน่วยงาน ยกตัวอย่างเช่น Facebook, Twitter, Instagram เป็นต้น – ระบบ intranetหน้าเว็ปซ์กระทรวงฯFacebook กระทรวงฯQR CODE กระทรวง พม.Youtube กระทรวง พม.มัลตีเดีย
O10 แผนดำเนินงานประจำปี (10) แสดงแผนการดำเนินภารกิจของหน่วยงานที่มีระยะ 1 ปี มีข้อมูลรายละเอียดของแผนฯ ยกตัวอย่างเช่น โครงการหรือกิจกรรม งบประมาณที่ใช้ ระยะเวลาในการดำเนินการ เป็นต้น เป็นแผนที่มีระยะเวลาบังคับใช้ในปี พ.ศ. 2564 – แผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ
O11 รายงานการกำกับติดตามการดำเนินงานประจำปี รอบ 6 เดือน (11) แสดงความก้าวหน้าในการดาเนินงานตามแผนดำเนินงาน๕ประจำปี มีเนื้อหา หรือรายละเอียด ความก้าวหน้า ยกตัว อย่างเช่น ความก้าวหน้าการดาเนินการแต่ละโครงการ/กิจกรรม รายละเอียดงบประมาณที่ใช้ดำเนินงาน เป็นต้น เป็นข้อมูลในระยะเวลา 6 เดือนแรกของปี พ.ศ. 2565 – ข้อมูลงบประมาณ
O12 รายงานผลการดำเนินงานประจำปี (12) แสดงผลการดำเนินงานตามแผนดาเนินงานประจำปีมีข้อมูลรายละเอียดสรุปผลการดาเนินงาน ยกตัวอย่างเช่น ผลการดาเนินการโครงการหรือกิจกรรม ผลการใช้จ่ายงบประมาณ ปัญหา อุปสรรค ข้อเสนอแนะ ผลสัมฤทธิ์ตามเป้าหมาย เป็นต้นเป็นรายงานผลของปี พ.ศ. 2563 – ข้อมูลงบประมาณรายงานสรุปผลการใช้จ่ายงบประมาณ ปี 2564
– แผนบูรณาการการพัฒนาตลอดช่วงชีวิต
– ผลการดำเนินงานที่สำคัญปี 62
O13 คู่มือหรือมาตรฐานการปฏิบัติงาน (13) แสดงคู่มือหรือแนวทางการปฏิบัติงานที่เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานใช้ ยึดถือปฏิบัติให้เป็นมาตรฐานเดียวกันมีข้อมูลรายละเอียดของการปฏิบัติงาน ยกตัวอย่างเช่น เป็นคู่มือปฏิบัติภารกิจใด สาหรับเจ้าหน้าที่หรือพนักงานตำแหน่งใด กำหนดวิธีการขั้นตอนการปฏิบัติอย่างไร เป็นต้น – มาตรฐานการปฏิบัติหน้าที่ของสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด
– คู่มือการปฏิบัติงานตามกระบวนการหลักและกระบวนการสนับสนุน ประจำปี 2562 ของกองมาตรฐานการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สป.พม.”
– คู่มือการปฏิบัติงานตามกระบวนการหลักและกระบวนการสนับสนุน ประจำปี 2562 ของกองการต่างประเทศ สป.พม.”
– คู่มือการปฏิบัติงานพัสดุ
– วาระใหม่แห่งการพัฒนาเมือง (New Urban Agenda)
– พจนานุกรมศัพท์ ประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน
– คู่มือและแนวทางการปฏิบัติ การประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสสำหรับคณะมนตรีประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน และการประชุมคณะมนตรีประชาสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน
– ASEAN Regional Guidelines on Violence against Woman and Girls Data Collection and Use
O14 คู่มือหรือมาตรฐานการให้บริการ (14) แสดงคู่มือหรือแนวทางการปฏิบัติที่ผู้รับบริการหรือผู้มาติดต่อกับหน่วยงานใช้เป็นข้อมูลในการขอรับบริการหรือติดต่อกับหน่วยงาน มีข้อมูลรายละเอียดของการปฏิบัติ ยกตัวอย่างเช่น เป็นคู่มือสาหรับบริการหรือภารกิจใด กำหนดวิธีการขั้นตอนการให้บริการหรือการติดต่ออย่างไร เป็นต้น – ข้อมูลการให้บริการ
O15 ข้อมูลเชิงสถิติการให้บริการ (15) แสดงข้อมูลสถิติการให้บริการของหน่วยงานเป็นข้อมูลในระยะเวลาอย่างน้อย 6 เดือนแรกของปี พ.ศ. 2564 – ศูนย์รวมข้อมูลเพื่อติดต่อราชการ
– คู่มือ สิทธิประโยชน์ด้านสวัสดิการสังคมสำหรับประชาชน
– คู่มือปฏิบัติงานการให้บริการศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน 1300
– ข้อมูลเชิงสถิติการให้บริการ 
– ข้อมูลสถิติการให้บริการระบบฐานข้อมูลของประเทศไทยด้านการด าเนินคดีและการช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์(E-AHT)
O16 รายงานผลการสำรวจความพึงพอใจการให้บริการ (16) แสดงผลสำรวจความพึงพอใจการให้บริการของหน่วยงาน เป็นรายงานผลของปี พ.ศ. 2564 – การสำรวจความพึงพอใจของผู้รับบริการฯ
O17 O17 (17) แสดงช่องทางที่บุคคลภายนอกสามารถขอรับบริการกับหน่วยงานผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกแก่ ผู้ขอรับบริการ สามารถเข้าถึงหรือเชื่อมโยงไปยังช่องทางข้างต้นได้จากเว็บไซต์หลักของหน่วยงาน – e-Service
O18 แผนการใช้จ่ายงบประมาณประจำปี (18) แสดงแผนการใช้จ่ายงบประมาณของหน่วยงานที่มีระยะ 1 ปี มีข้อมูลรายละเอียดของแผนฯ ยกตัวอย่างเช่น งบประมาณตามแหล่งที่ได้รับการจัดสรร งบประมาณตามประเภทรายการใช้จ่าย เป็นต้น เป็นแผนที่มีระยะเวลาบังคับใช้ในปี พ.ศ. 2564 – แผนการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 สป.พม.
O19 รายงานการกำกับติดตามการใช้จ่ายงบประมาณประจาปีรอบ 6 เดือน (19) แสดงความก้าวหน้าในการดำเนินงานตามแผนการใช้จ่ายงบประมาณประจาปี มีข้อมูลรายละเอียดความก้าวหน้า ยกตัวอย่างเช่น ความก้าวหน้าการใช้จ่ายงบประมาณ เป็นต้น เป็นข้อมูลในระยะเวลา 6 เดือนแรกของปี พ.ศ. 2564 – ข้อมูลงบประมาณ
O20 รายงานผลการใช้จ่ายงบประมาณประจำปี (20) แสดงผลการดาเนินงานตามแผนการใช้จ่ายงบประมาณประจำปี มีข้อมูลรายละเอียดสรุปผลการใช้จ่ายงบประมาณ ยกตัวอย่างเช่น ผลการใช้จ่ายงบประมาณ ปัญหา อุปสรรค ข้อเสนอแนะ ผลสัมฤทธิ์ตามเป้าหมาย เป็นต้น เป็นรายงานผลของปี พ.ศ. 2563 – รายงานผลการปฏิบัติงานและผลการใช้จ่ายงบประมาณของหน่วยรับงบประมาณ ประจำปี 2563
O21 แผนการจัดซื้อจัดจ้างหรือแผนการจัดหาพัสดุ (21) แสดงแผนการจัดซื้อจัดจ้างหรือแผนการจัดหาพัสดุตามที่หน่วยงาน จะต้องดาเนินการตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 เป็นข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้างในปี พ.ศ. 2564 – แผนจัดซื้อจัดจ้าง
O22 ประกาศต่าง ๆ เกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างหรือการจัดหาพัสดุ (22) แสดงประกาศตามที่หน่วยงานจะต้องดาเนินการตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ยกตัวอย่าง เช่น ประกาศเชิญชวน ประกาศผลการจัดซื้อจัดจ้าง เป็นต้น เป็นข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้างในปี พ.ศ. 2564 – ข่าวจัดซื้อจัดจ้างราคากลางประกาศผู้ชนะการเสนอราคา
O23 สรุปผลการจัดซื้อจัดจ้างหรือการจัดหาพัสดุรายเดือน (23) แสดงสรุปผลการจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานมีข้อมูลรายละเอียดผลการจัดซื้อจัดจ้าง ยกตัวอย่างเช่น งานที่ซื้อหรือจ้าง วงเงินที่ซื้อหรือจ้าง ราคากลาง วิธีการซื้อหรือจ้าง รายชื่อผู้เสนอราคาและราคาที่เสนอ ผู้ได้รับการคัดเลือกและราคาที่ตกลงเหตุผลที่คัดเลือกโดยสรุป เลขที่และวันที่ของสัญญาหรือข้อตกลงในการซื้อหรือจ้าง เป็นต้นจำแนกข้อมูลเป็นรายเดือน (กรณีไม่มีการจัดซื้อจัดจ้างในรอบเดือนใดให้เผยแพร่ว่าไม่มีการจัดซื้อจัดจ้างในเดือนนั้น)เป็นข้อมูลในระยะเวลาอย่างน้อย 6 เดือนแรกของปี พ.ศ. 2564 – ข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้างประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 (รายเดือน)
– รายงานผลการจัดซื้อจัดจ้างประจำปีงบประมาณ 2663
O24 รายงานผลการจัดซื้อจัดจ้างหรือการจัดหาพัสดุประจำปี (24) แสดงผลการจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานมีข้อมูลรายละเอียด ยกตัวอย่างเช่น งบประมาณที่ใช้ในการจัดซื้อจัดจ้าง ปัญหา อุปสรรค ข้อเสนอแนะ เป็นต้นเป็นรายงานผลของปี พ.ศ. 2564 – รายงานผลการจัดซื้อจัดจ้างประจำปีงบประมาณ 2564
O25 การดำเนินการตามนโยบายการบริหารทรัพยากรบุคคล (25) เป็นนโยบายหรือแผนการบริหารและพัฒนาทรัพยากรบุคคลที่ยังใช้บังคับในหน่วยงานในปี พ.ศ. 2564แสดงนโยบาย หรือแผนการบริหารและพัฒนาทรัพยากรบุคคลที่มีจุดมุ่งหมายหรือวัตถุประสงค์ เพื่อก่อให้เกิดการบริหารทรัพยากรบุคคลที่มีความโปร่งใสและมีคุณธรรมเป็นนโยบายหรือแผนการบริการและพัฒนาทรัพยากรบุคคลของผู้บริหารสูงสุด ที่กำหนดในนามขอ งหน่วยงาน – นโยการบริหารทรัพยากบุคคล
– แผนกลยุทธ์การบริหารทรัพยากรบุคคล ปี 2564
– ประกาศ อ.ก.พ. กระทรวง พม. เรื่อง แนวทางการกำหนดเส้นทางความก้าวหน้าในสายอาชีพข้าราชการ สป.พม.
– ประกาศ อ.ก.พ. กระทรวง พม.
O26 การดำเนินการตามนโยบายการบริหารทรัพยากรบุคคล (26) เป็นการดำเนินการในปี พ.ศ. 2564แสดงการดำเนินการตามนโยบายหรือแผนการบริหารและพัฒนาทรัพยากรบุคคล ยกตัวอย่างเช่น การวางแผนกำลังคน การสรรหาคนดีคนเก่งเพื่อปฏิบัติงานตามภารกิจของหน่วยงาน การพัฒนาบุคลากร การสร้างทางก้าวหน้าในสายอาชีพ การพัฒนาคุณภาพชีวิต การบรรจุและแต่งตั้งบุคลากร การประเมินผลการปฏิบัติงาน การส่งเสริมจริยธรรมและรักษาวินัยของบุคลากรในหน่วยงาน เป็นต้นเป็นการดำเนินการที่มีความสอดรับกับนโยบาย หรือแผนการบริหารและพัฒนาทรัพยากรบุคคล – ข่าวบุคลากร
– การรับสมัครเข้ารับการคัดเลือกบุคคลเข้ารับการประเมินเพื่อเลื่อนขึ้นแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการ ชพ.
O27 หลักเกณฑ์การบริหารและพัฒนาทรัพยากรบุคคล (27) แสดงหลักเกณฑ์การบริหารและพัฒนาทรัพยากรบุคคลที่ยังใช้บังคับในหน่วยงานในปี พ.ศ. 2564 อย่างน้อยประกอบด้วยการสรรหาและคัดเลือกบุคลากรการบรรจุและแต่งตั้งบุคลากรการพัฒนาบุคลากรการประเมินผลการปฏิบัติงานบุคลากรการให้คุณให้โทษและการสร้างขวัญกาลังใจ – หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินผลการปฏิบัติราชการของข้าราชการพลเรือนสามัญ
O28 รายงานผลการบริหารและพัฒนาทรัพยากรบุคคลประจำปี (28) เป็นรายงานผลของปีที่ผ่านมา พ.ศ. 2563 แสดงผลการบริหารและพัฒนาทรัพยากรบุคคล มีข้อมูลรายละเอียดของการดาเนินการ ยกตัวอย่างเช่น ผลการดาเนินการตามนโยบายการบริหารทรัพยากรบุคคล ผลการวิเคราะห์การบริหารและพัฒนาทรัพยากรบุคคล เป็นต้น – การสรรหาโดยการสอบแข่งขับเพื่อบรรจุบุคคลเข้ารับราชการ
– การอนุมติคัดเลือกจากบัญชีผู้สอบแข่งขันได้
– หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินผลการปฏิบัติราชการของข้าราชการพลเรือนสามัญ
– ขออนุมัติหลักเกณฑ์การประเมินผลการปฏิบัติงานและการเลื่อนค่าตอบแทน พรก.
– ผลการสำรวจความพึงพอใจของผู้รับบริการฯ
– รายการสรุปการประเมินความพึงพอใจโครงการฝึกอบรม
– แบบรายงาน การบริหารทรัพยากรบุคคลประจำปี 2562 สป.พม.
– รายการ การอบรม/ประชุมเชิงปฏิบัติการ/สัมมนา
O29 แนวปฏิบัติการจัดการเรื่องร้องเรียนการทุจริต และประพฤติมิชอบ (29) แสดงคู่มือหรือแนวทางการดำเนินการต่อเรื่องร้องเรียนที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตและประพฤติมิชอบของเจ้าหน้าที่ของหน่วยงาน มีข้อมูลรายละเอียดของการปฏิบัติงาน ยกตัวอย่างเช่น รายละเอียด วิธีการที่บุคคลภายนอกจะทำการร้องเรียน รายละเอียดขั้นตอนหรือวิธีการในการจัดการต่อเรื่องร้องเรียน ส่วนงานที่รับผิดชอบ ระยะเวลาดำเนินการ เป็นต้น – การส่งเสริมคุณธรรมและความโปร่งใส
– การจัดการเรื่องร้องเรียนร้องเรื่องการทุจริตและประพฤติมิชอบ
– ขั้นตอนกระบวนการจัดการเรืองร้องเรียนทุจริต
O30 ช่องทางแจ้งเรื่องร้องเรียนการทุจริต และประพฤติมิชอบ (30) แสดงช่องทางที่บุคคลภายนอกสามารถแจ้งเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบของเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานผ่านทาง ช่องทางออนไลน์ โดยแยกต่างหากจากช่องทางทั่วไป เพื่อเป็นการคุ้มครองข้อมูลของผู้แจ้งเบาะแสและเพื่อให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติการจัดการเรื่องร้องเรียนการทุจริตและประพฤติมิชอบ สามารถเข้าถึงหรือเชื่อมโยงไปยังช่องทางข้างต้นได้จากเว็บไซต์หลักของหน่วยงาน – ร้องเรียนการทุจริตQR CODE
– ช่องทางร้องเรียน สำนักนายกรัฐมนตรี
O31 ข้อมูลเชิงสถิติเรื่องร้องเรียนการทุจริต และประพฤติมิชอบ (31) แสดงข้อมูลสถิติเรื่องร้องเรียนการทุจริตและประพฤติมิชอบของเจ้าหน้าที่ของหน่วยงาน มีข้อมูลความก้าวหน้าการจัดการเรื่องร้องเรียน ยกตัวอย่างเช่น จำนวนเรื่อง เรื่องที่ดำเนินการแล้วเสร็จ เรื่องที่อยู่ระหว่างดำเนินการ เป็นต้น (กรณีไม่มีเรื่องร้องเรียนให้เผยแพร่ว่าไม่มีเรื่องร้องเรียน) เป็นข้อมูลในระยะเวลาอย่างน้อย 6 เดือนแรกของปี พ.ศ. 2564 – ข้อมูลเชิงสถิติเรื่องร้องเรียนการทุจริตและประพฤติมิชอบประจำปี
– สถิติ รายงานการจัดการเรื่องร้องเรียนการทุจริต
O32 ช่องทางการรับฟังความคิดเห็น (32) แสดงช่องทางที่บุคคลภายนอกสามารถแสดงความคิดเห็นต่อการดำเนินงานตามอำนาจหน้าที่หรือภารกิจของหน่วยงานผ่านทางช่องทางออนไลน์ สามารถเข้าถึงหรือเชื่อมโยงไปยังช่องทางข้างต้นได้จากเว็บไซต์หลักของหน่วยงาน – สายตรงปลัดพัชรีถาม-ตอบ
– ศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน 1300
– กล่องข้อความ Facebook
– ข้อมูลบริการQR CODE พม.โปร่งใส
O33 การเปิดโอกาสให้เกิดการมีส่วนร่วม (33) แสดงการดำเนินการหรือกิจกรรมที่แสดงถึงการเปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียได้มีส่วนร่วมในการดำเนินงานตามภารกิจของหน่วยงาน ยกตัวอย่างเช่น ร่วมวางแผน ร่วมดาเนินการ ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น หรือร่วมติดตามประเมินผล เป็นต้น เป็นการดำเนินการในปี พ.ศ. 2564 – กล่องข้อความ Facebook
– ข้อมูลบริการ
– QR CODE พม.โปร่งใส
สายตรงปลัดพัชรี
O34 นโยบายไม่รับของขวัญ (No Gift Policy) (34) แสดงนโยบายว่าผู้บริหาร เจ้าหน้าที่และบุคลากรทุกคนจะต้องไม่มีการรับของขวัญ (No Gift Policy)
ดำเนินการโดยผู้บริหารสูงสุดคนปัจจุบัน
เป็นการดำเนินการในปี พ.ศ. 2565
– นโยบายไม่รับของขวัญ (No Gift Policy)
O35 การมีส่วนร่วมของผู้บริหาร (35) แสดงการดำเนินการหรือกิจกรรมที่แสดงถึงการมีส่วนร่วมของผู้บริหารสูงสุดคนปัจจุบัน เป็นการดำเนินการหรือกิจกรรมที่แสดงให้เห็นถึงความสำคัญกับการปรับปรุง พัฒนา และส่งเสริมหน่วยงานด้านคุณธรรมและโปร่งใส เป็นการดำเนินการในปี พ.ศ. 2564 – เจตจำนงสุจริตของผู้บริหาร
– รมว.พม. มอบนโยบาย
O36 การประเมินความเสี่ยงการทุจริตประจำปี (36) แสดงผลการประเมินความเสี่ยงของการดำเนินงาน ที่อาจก่อให้เกิดการทุจริตหรือการขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนกับผลประโยชน์ส่วนรวมของหน่วยงาน มีข้อมูลรายละเอียดของผลการประเมิน เช่น เหตุการณ์ความเสี่ยง ระดับความเสี่ยง มาตรการดำเนินการบริหารจัดการความเสี่ยง เป็นการดำเนินการในปี พ.ศ. 2564 – การประเมินความเสี่ยงการทุจริตประจำปี
– การดำเนินการเพื่อการจัดการความเสี่ยงการทุจริต
O37 การดำเนินการเพื่อการจัดการความเสี่ยงการทุจริต (37) แสดงการดำเนินการที่แสดงถึงการจัดการความเสี่ยงในกรณีที่อาจก่อให้เกิดการทุจริตหรือการขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนกับผลประโยชน์ส่วนรวมของหน่วยงาน เป็นกิจกรรมหรือการดำเนินการที่สอดคล้องกับมาตรการดำเนินการบริหารจัดการความเสี่ยงตามข้อ O36 เป็นการดำเนินการในปี พ.ศ. 2564 – การประเมินความเสี่ยงการทุจริตประจำปี
– การดำเนินการเพื่อการจัดการความเสี่ยงการทุจริต
O38 การเสริมสร้างวัฒนธรรมองค์กร (38) แสดงการดำเนินการหรือกิจกรรมที่แสดงถึงการเสริมสร้างวัฒนธรรมองค์กรให้มีทัศนคติ ค่านิยม ในการปฏิบัติงานอย่างซื่อสัตย์สุจริตชัดเจน เป็นการดำเนินการในปี พ.ศ. 2564 – การเสริมสร้างวัฒนธรรมองค์กร
O39 แผนปฏิบัติการป้องกันการทุจริต (39) แสดงแผนปฏิบัติการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันการทุจริตหรือพัฒนาด้านคุณธรรมและความโปร่งใสของหน่วยงาน มีข้อมูลรายละเอียดของแผนฯ เช่น โครงการ กิจกรรม งบประมาณ ช่วงเวลาดำเนินการ เป็นต้น เป็นแผนที่มีระยะเวลาบังคับใช้ครอบคลุมปี พ.ศ. 2564 – แผนปฏิบัติการป้องกันการทุจริต
– การประเมินความเสี่ยงเพื่อป้องกันการทจริต
O40 รายงานการกำกับติดตามการดำเนินการป้องกันการทุจริตประจำปีรอบ 6 เดือน (40) แสดงความก้าวหน้าในการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการป้องกันการทุจริตตามข้อ O39 มีข้อมูลรายละเอียดความก้าวหน้า เช่น ความก้าวหน้าแต่ละโครงการ รายละเอียดงบประมาณที่ใช้ดำเนินการ เป็นต้น เป็นข้อมูลในระยะเวลา 6 เดือนแรกของปี พ.ศ. 2564 – รายงานการกำกับติดตามการดำเนินการป้องกันการทุจริตประจำปีรอบ 6 เดือน
O41 รายงานผลการดำเนินการป้องกันการทุจริตประจำปี (41) แสดงผลการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการป้องกันการทุจริต มีข้อมูลรายละเอียดสรุปผลการดำเนินการ เช่น ผลการดำเนินโครงการ ผลการใช้จ่ายงบประมาณ ปัญหา อุปสรรค ข้อเสนอแนะ ผลสัมฤทธิ์ เป็นต้น ใช้รายงานผลของปี พ.ศ. 2563 – รายงานผลการดำเนินการป้องกันการทุจริตประจำปี
O42 มาตรการส่งเสริมคุณธรรมและความโปร่งใสภายในหน่วยงาน (42) แสดงการวิเคราะห์ผลประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ พ.ศ. 2563 มีข้อมูลรายละเอียดวิเคราะห์ เช่น ประเด็นข้อบกพร่องหรือจุดอ่อนที่ต้องแก้ไขโดยเร่งด่วน ที่มีความสอดคล้องกับผลการประเมินฯ ประเด็นที่จะต้องพัฒนาให้ดีขึ้น แนวทางการนำผลวิเคราะห์ไปสู่การปฏิบัติของหน่วยงาน เป็นต้น มีมาตรการขับเคลื่อนที่สอดคล้องตามผลวิเคราะห์การประเมินฯ โดยมีรายละเอียดต่างๆ เช่น การกำหนดผู้รับผิดชอบ ผู้เกี่ยวข้อง ขั้นตอน วิธีการปฏิบัติ แนวทางการปฏิบัติกำกับติดตาม และรายงานผล เป็นต้น – มาตรการส่งเสริมคุณธรรมและความโปร่งใสภายในหน่วยงาน
O43 การดำเนินการตามมาตรการส่งเสริมคุณธรรมและความโปร่งใสภายในหน่วยงาน (43) แสดงผลการดำเนินการตามมาตรการเพื่อส่งเสริมคุณธรรมและความโปร่งใสในหน่วยงาน มีข้อมูลรายละเอียดการนำมาตรการเพื่อส่งเสริมคุณธรรมและความโปร่งใสภายในหน่วยงานจากข้อ O42 ที่นำไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม เป็นการดำเนินการในปี พ.ศ. 2564 – การดำเนินการตามมาตรการส่งเสริมคุณธรรมและความโปร่งใสภายในหน่วยงาน


Share:



สื่อ วีดีทัศน์

   นางสาววรางคณา วงศ์มหาชัย พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมด้วยทีม One Home จังหวัดร้อยเอ็ด เข้าร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการ “การมอบนโยบายและขับเคลื่อนภารกิจกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ประจำปี 2564”
เพื่อสร้างความเข้าใจแก่หน่วยงาน พม. เกี่ยวกับนโยบายและทิศทางการขับเคลื่อนภารกิจกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และโครงการสำคัญประจำปี 2564 ณ โรงแรมรามา การ์เด้นส์ กรุงเทพมหานคร โดยมี นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวง
การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมและมอบนโยบายฯ


Share:



คู่มือประชาชน

การรับรองมาตรฐานการปฏิบัติงานด้านการจัดสวัสดิการสังคมของอาสาสมัคร


Share:



คู่มือการปฏิบัติงานกองทุนส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคม

เอกสารที่เกี่ยวข้อง

Share:



สิทธิประโยชน์สำหรับเด็กและเยาวชน

สิทธิประโยชน์สำหรับเด็กและเยาวชน

1.  การสงเคราะห์คุ้มครองสวัสดิภาพเด็กในสถานแรกรับ/สถานสงเคราะห์/สถานคุ้มครองสวัสดิภาพ/สถานพัฒนาและฟื้นฟู
   1.1  การดูแลเด็กในสถานแรกรับ (รับเด็กอายุ 6-18 ปี) มีสถานแรกรับเด็กชาย-หญิง จำนวน 2 แห่ง ใน 2 จังหวัด คือ จังหวัดนนทบุรีและปทุมธานี
1.2  การดูแลเด็กอ่อนในสถานสงเคราะห์ (รับเด็กแรกเกิด-5 ปี) มี 8 แห่ง ใน 7 จังหวัด คือ จังหวัดนนทบุรี ปทุมธานี ขอนแก่น สงขลา เชียงใหม่ อุดมธานี และนครศรีธรรมราช
1.3  การดูแลเด็กในสถานสงเคราะห์เด็ก (รับเด็กอายุ 6-18 ปี) มี 15 แห่ง ใน 14 จังหวัด คือ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี ชลบุรี สระบุรี เชียงใหม่ นครราชสีมา หนองคาย อุดรธานี นราธิวาส ปัตตานี ยะลา นครศรีธรรมราช และสงขลา
1.4  การดูแลเด็กในศูนย์สงเคราะห์และฝึกอาชีพเด็กและเยาวชน (รับเด็กอายุ 6-18 ปี) มี 1 แห่ง ที่จังหวัดศรีสะเกษ
1.5  การดูแลเด็กในสถานคุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก (รับเด็กอายุ 6-18 ปี) มี 4 แห่ง ที่จังหวัดขอนแก่น ระยอง นนทบุรีและปทุมธานี
1.6การดูแลเด็กในสถานพัฒนาและฟื้นฟู (รับเด็กอายุ 6-18 ปี) มี 4 แห่ง ที่จังหวัดชลบุรี ลำปาง หนองคายและสุราษฎร์ธานี   1.7  การจัดบริการที่พักชั่วคราวแก่เด็กและครอบครัวที่ประสบปัญหาตลอด 24 ชั่วโมง โดยเป็นสถานแรกรับตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 และเป็นสถานที่รับตัวชั่วคราวตามกฎหมาย 3 ฉบับ คือ พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ. 2539 พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ. 2550 และพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551 ดำเนินการในบ้านพักเด็กและครอบครัว 36 แห่งทั่วประเทศ
2.  การสงเคราะห์ คุ้มครองสวัสดิภาพเด็กและพัฒนาเด็กในครอบครัวชุมชน
 2
.1  สงเคราะห์เด็กในครอบครัว มีการจัดบริการสงเคราะห์เด็กในครอบครัวยากจน ประสบปัญหาความเดือดร้อนและสงเคราะห์เด็กนักเรียนขาดแคลน ดังนี้
1.  การให้คำปรึกษาแนะนำ
2.  การให้การช่วยเหลือเป็นเงิน สิ่งของ เครื่องอุปโภคบริโภค และอุปกรณ์การศึกษา หรือให้การช่วยเหลือทั้งเงินและสิ่งของในคราวเดียวกัน ในวงเงินครั้งละไม่เกิน 2,000 บาท ต่อเด็กหนึ่งคนในครอบครัว และไม่เกิน 3,000 บาท สำหรับครอบครัวที่มีเด็กเกินกว่าหนึ่งคน
2.2  การจัดหาครอบครัวอุปถัมภ์
          เป็นการบริการจัดหาครอบครัวทดแทนชั่วคราวให้กับเด็กในสถานสงเคราะห์ เด็กกำพร้า เด็กถูกทอดทิ้ง ซึ่งมีผู้เลี้ยงดูไว้ในครอบครัว อายุตั้งแต่แรกเกิดถึง 18 ปีบริบูรณ์ เพื่อเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนให้เด็กได้เจริญเติบโตอยู่ในครอบครัวแทนการเลี้ยงดูเด็กไว้ในสถานสงเคราะห์ หากครอบครัวที่เลี้ยงดูเด็กประสบปัญหาความเดือดร้อนด้านเศรษฐกิจ จะได้รับการสนับสนุนเป็นเงินช่วยค่าเลี้ยงดูเด็ก รายละไม่เกิน 2,000 บาทต่อเดือน และ/หรือช่วยเหลือเครื่องอุปโภคบริโภคแก่เด็กเดือนละไม่เกิน 500 บาท กรณีเห็นสมควรให้ความช่วยเหลือครอบครัวที่อุปการะเด็กมากกว่า 1 คน ช่วยเหลือเงินค่าเลี้ยงดูเดือนละไม่เกิน 4,000 บาท และ/หรือช่วยเหลือเป็นเครื่องอุปโภคบริโภคเดือนละไม่เกิน 1,000 บาท ทั้งนี้ตามระเบียบกรมประชาสงเคราะห์ว่าด้วยการสงเคราะห์เด็กแบบครอบครัวอุปถัมภ์ พ.ศ. 2544 และประกาศกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ เรื่อง อัตราและหลักเกณฑ์การจ่ายเงินช่วยค่าเลี้ยงดูเด็กแก่ครอบครัวอุปถัมภ์ และ/หรือ ช่วยเหลือเครื่องอุปโภคบริโภคแก่เด็กตามความจำเป็น
2.3  การรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม
เป็นการดำเนินงานด้านการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมโดยการจัดหาครอบครัวทดแทนที่มีลักษณะถาวร ซึ่งเป็นครอบครัวบุญธรรมชาวไทยที่มีสัญชาติไทย และมีภูมิลำเนาอยู่ในประเทศไทย หรือครอบครัวบุญธรรมชาวต่างประเทศที่มีคุณสมบัติครบถ้วน ทั้งในด้านกฎหมายและด้านของสังคมของประเทศนั้น ๆ ให้กับเด็กกำพร้าถูกทอดทิ้งที่อยู่ในความอุปการะของกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ เด็กกำพร้าที่อยู่ในความอุปการะขององค์การสวัสภาพเด็ก (เฉพาะครอบครัวบุญธรรมชาวต่างประเทศ)  เด็กที่บิดามารดาที่แท้จริงยินยอมยกให้ เนื่องจากไม่สามารถให้การอุปการะเลี้ยงดูได้และเด็กที่มีคำสั่งศาลแทนการให้ความยินยอมของบิดามารดาเด็ก โดยดำเนินงานภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
1.  พระราชบัญญัติการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม พ.ศ. 2522
2.  พระราชบัญญัติการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2533
3.  กฎกระทรวงฉบับที่ 9 (พ.ศ. 2543)  ออกตามความในพระราชบัญญัติการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม
4.  พระราชบัญญัติการจดทะเบียนครอบครัว พุทธศักราช 2478
5.  ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
2.3.1  การรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมของชาวไทย จุดบริการ  ศูนย์อำนวยการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม สำหรับผู้มีภูมิลำเนาในเขตกรุงเทพมหานคร หรือสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด สำหรับผู้มีภูมิลำเนาในจังหวัดนั้น ๆ
                 คุณสมบัติผู้ขอรับบริการ
                  1. คุณสมบัติตามกฎหมาย : ผู้ที่จะรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมจะต้องมีคุณสมบัติเบื้องต้น คือ
1.1  ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 25 ปีบริบูรณ์ (นับตั้งแต่วันเกิด ถึงวันที่ยื่นคำร้อง)
1.2  ต้องมีอายุแก่กว่าเด็กที่จะรับเป็นบุตรบุญธรรม อย่างน้อย 15 ปี
1.3  ต้องเป็นผู้ที่ไม่ต้องห้ามเป็นผู้ปกครองเด็กตามมาตรา 1587 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
                 2. คุณสมบัติทางสังคม
2.1  กรณีขอรับเด็กกำพร้า ควรมีคู่สมรสตามกฎหมาย เพื่อเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์ มีทั้งบิดามารดา และไม่ควรมีอายุห่างจากเด็กมากเกินไป
2.2  มีฐานะการครองชีพและสถานภาพทางเศรษฐกิจที่มั่นคง / มีที่อยู่อาศัยในสิ่งแวดล้อมที่ดี / มีเวลาพร้อมให้กับเด็กที่จะรับเป็นบุตรบุญธรรม
          2.3.2  การรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมของชาวต่างประเทศ  จุดบริการ  ศูนย์อำนวยการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม สถานเอกอัครราชทูต / หน่วยงานสังคมสงเคราะห์ / องค์กรสวัสดิภาพเด็กในต่างประเทศ
                  คุณสมบัติผู้ขอรับบริการ
                   1. ผู้ขอรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 25 ปีบริบูรณ์ และต้องมีอายุมากกว่าเด็กที่จะเป็นบุตรบุญธรรม อย่างน้อย15 ปี
                  2. จะต้องเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติที่จะรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมได้ตามกฎหมายของประเทศที่ผู้ขอรับมีภูมิลำเนาอยู่ ซึ่งมีความสัมพันธ์ทางการทูตกับประเทศไทย กรณีผู้ขอรับฯ ยื่นคำขอในประเทศไทยจะต้องมีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทยอย่างน้อย ๖ เดือน  และมีระยะเวลาสำหรับการทดลองเลี้ยงดูเด็กไม่น้อยกว่าหกเดือน
                  3. ผู้ขอรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมที่มีบุตรอยู่ในความอุปการะ 3 คนขึ้นไป จะมีการพิจารณาคุณสมบัติของผู้ขอฯ
                  4. ต้องไม่เป็นผู้ต้องห้ามเป็นผู้ปกครองเด็กตามมาตรา 1587 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
                  5. กรณีขอรับเด็กกำพร้าควรมีคู่สมรสตามกฎหมาย เพื่อเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์ มีทั้งบิดามารดาและไม่ควรมีอายุห่างจากเด็กมากเกินไป
    2.4  การอนุญาตจัดตั้งสถานรับเลี้ยงเด็กและสถานสงเคราะห์เด็กเอกชน
 กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ มีภารกิจในการส่งเสริมและสนับสนุนให้ภาคเอกชนดำเนินงานสถานรับเลี้ยงเด็กและสถานสงเคราะห์เด็กเอกชน  ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 เพื่อช่วยในการพัฒนาและคุ้มครองสวัสดิภาพ เด็ก / เยาวชน อายุแรกเกิด-18 ปี ให้ได้รับการพัฒนาศักยภาพเหมาะสมตามวัย เพื่อส่งผลให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี โดยการอนุญาตให้จัดตั้งสถานรับเลี้ยงเด็กและสถานสงเคราะห์เด็กเอกชน และสนับสนุนการดำเนินงานโดยการตรวจเยี่ยม ให้คำแนะนำ การพัฒนาบุคลากร อาหารเสริมและสื่อพัฒนาการเด็กตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด เป็นต้น
    2.5  การจัดบริการสถานรับเลี้ยงและพัฒนาเด็กปฐมวัย
 เพื่อเป็นสวัสดิการแก่บุตรหลานข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ของกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ตลอดจนประชาชนทั่วไปที่มีรายได้น้อย เพื่อให้เด็กปฐมวัย (0-6 ปี) ได้รับการอบรมเลี้ยงดูและพัฒนาศักยภาพตามวัยอย่างเหมาะสม 
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ
โทรศัพท์ 02-6596113, 02-6596107
โทรสาร 02-2818211
ศูนย์อำนวยการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม
โทรศัพท์ 02-3547509, 02-6447996
โทรสาร 02-3547511
และสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดร้อยเอ็ด

Share:



สิทธิประโยชน์สำหรับเด็กและเยาวชน

1.  การสงเคราะห์คุ้มครองสวัสดิภาพเด็กในสถานแรกรับ/สถานสงเคราะห์/สถานคุ้มครองสวัสดิภาพ/สถานพัฒนาและฟื้นฟู
  
1.1  การดูแลเด็กในสถานแรกรับ (รับเด็กอายุ 6-18 ปี) มีสถานแรกรับเด็กชาย-หญิง จำนวน 2 แห่ง ใน 2 จังหวัด คือ จังหวัดนนทบุรีและปทุมธานี
1.2  การดูแลเด็กอ่อนในสถานสงเคราะห์ (รับเด็กแรกเกิด-5 ปี) มี 8 แห่ง ใน 7 จังหวัด คือ จังหวัดนนทบุรี ปทุมธานี ขอนแก่น สงขลา เชียงใหม่ อุดมธานี และนครศรีธรรมราช
1.3  การดูแลเด็กในสถานสงเคราะห์เด็ก (รับเด็กอายุ 6-18 ปี) มี 15 แห่ง ใน 14 จังหวัด คือ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี ชลบุรี สระบุรี เชียงใหม่ นครราชสีมา หนองคาย อุดรธานี นราธิวาส ปัตตานี ยะลา นครศรีธรรมราช และสงขลา
1.4  การดูแลเด็กในศูนย์สงเคราะห์และฝึกอาชีพเด็กและเยาวชน (รับเด็กอายุ 6-18 ปี) มี 1 แห่ง ที่จังหวัดศรีสะเกษ
1.5  การดูแลเด็กในสถานคุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก (รับเด็กอายุ 6-18 ปี) มี 4 แห่ง ที่จังหวัดขอนแก่น ระยอง นนทบุรีและปทุมธานี
1.6การดูแลเด็กในสถานพัฒนาและฟื้นฟู (รับเด็กอายุ 6-18 ปี) มี 4 แห่ง ที่จังหวัดชลบุรี ลำปาง หนองคายและสุราษฎร์ธานี   1.7  การจัดบริการที่พักชั่วคราวแก่เด็กและครอบครัวที่ประสบปัญหาตลอด 24 ชั่วโมง โดยเป็นสถานแรกรับตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 และเป็นสถานที่รับตัวชั่วคราวตามกฎหมาย 3 ฉบับ คือ พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ. 2539 พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ. 2550 และพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551 ดำเนินการในบ้านพักเด็กและครอบครัว 36 แห่งทั่วประเทศ
2.  การสงเคราะห์ คุ้มครองสวัสดิภาพเด็กและพัฒนาเด็กในครอบครัวชุมชน
 2
.1  สงเคราะห์เด็กในครอบครัว มีการจัดบริการสงเคราะห์เด็กในครอบครัวยากจน ประสบปัญหาความเดือดร้อนและสงเคราะห์เด็กนักเรียนขาดแคลน ดังนี้
1.  การให้คำปรึกษาแนะนำ
2.  การให้การช่วยเหลือเป็นเงิน สิ่งของ เครื่องอุปโภคบริโภค และอุปกรณ์การศึกษา หรือให้การช่วยเหลือทั้งเงินและสิ่งของในคราวเดียวกัน ในวงเงินครั้งละไม่เกิน 2,000 บาท ต่อเด็กหนึ่งคนในครอบครัว และไม่เกิน 3,000 บาท สำหรับครอบครัวที่มีเด็กเกินกว่าหนึ่งคน
2.2  การจัดหาครอบครัวอุปถัมภ์
          เป็นการบริการจัดหาครอบครัวทดแทนชั่วคราวให้กับเด็กในสถานสงเคราะห์ เด็กกำพร้า เด็กถูกทอดทิ้ง ซึ่งมีผู้เลี้ยงดูไว้ในครอบครัว อายุตั้งแต่แรกเกิดถึง 18 ปีบริบูรณ์ เพื่อเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนให้เด็กได้เจริญเติบโตอยู่ในครอบครัวแทนการเลี้ยงดูเด็กไว้ในสถานสงเคราะห์ หากครอบครัวที่เลี้ยงดูเด็กประสบปัญหาความเดือดร้อนด้านเศรษฐกิจ จะได้รับการสนับสนุนเป็นเงินช่วยค่าเลี้ยงดูเด็ก รายละไม่เกิน 2,000 บาทต่อเดือน และ/หรือช่วยเหลือเครื่องอุปโภคบริโภคแก่เด็กเดือนละไม่เกิน 500 บาท กรณีเห็นสมควรให้ความช่วยเหลือครอบครัวที่อุปการะเด็กมากกว่า 1 คน ช่วยเหลือเงินค่าเลี้ยงดูเดือนละไม่เกิน 4,000 บาท และ/หรือช่วยเหลือเป็นเครื่องอุปโภคบริโภคเดือนละไม่เกิน 1,000 บาท ทั้งนี้ตามระเบียบกรมประชาสงเคราะห์ว่าด้วยการสงเคราะห์เด็กแบบครอบครัวอุปถัมภ์ พ.ศ. 2544 และประกาศกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ เรื่อง อัตราและหลักเกณฑ์การจ่ายเงินช่วยค่าเลี้ยงดูเด็กแก่ครอบครัวอุปถัมภ์ และ/หรือ ช่วยเหลือเครื่องอุปโภคบริโภคแก่เด็กตามความจำเป็น
2.3  การรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม
เป็นการดำเนินงานด้านการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมโดยการจัดหาครอบครัวทดแทนที่มีลักษณะถาวร ซึ่งเป็นครอบครัวบุญธรรมชาวไทยที่มีสัญชาติไทย และมีภูมิลำเนาอยู่ในประเทศไทย หรือครอบครัวบุญธรรมชาวต่างประเทศที่มีคุณสมบัติครบถ้วน ทั้งในด้านกฎหมายและด้านของสังคมของประเทศนั้น ๆ ให้กับเด็กกำพร้าถูกทอดทิ้งที่อยู่ในความอุปการะของกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ เด็กกำพร้าที่อยู่ในความอุปการะขององค์การสวัสภาพเด็ก (เฉพาะครอบครัวบุญธรรมชาวต่างประเทศ)  เด็กที่บิดามารดาที่แท้จริงยินยอมยกให้ เนื่องจากไม่สามารถให้การอุปการะเลี้ยงดูได้และเด็กที่มีคำสั่งศาลแทนการให้ความยินยอมของบิดามารดาเด็ก โดยดำเนินงานภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
1.  พระราชบัญญัติการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม พ.ศ. 2522
2.  พระราชบัญญัติการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2533
3.  กฎกระทรวงฉบับที่ 9 (พ.ศ. 2543)  ออกตามความในพระราชบัญญัติการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม
4.  พระราชบัญญัติการจดทะเบียนครอบครัว พุทธศักราช 2478
5.  ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
2.3.1  การรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมของชาวไทย จุดบริการ  ศูนย์อำนวยการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม สำหรับผู้มีภูมิลำเนาในเขตกรุงเทพมหานคร หรือสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด สำหรับผู้มีภูมิลำเนาในจังหวัดนั้น ๆ
                 คุณสมบัติผู้ขอรับบริการ
                  1. คุณสมบัติตามกฎหมาย : ผู้ที่จะรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมจะต้องมีคุณสมบัติเบื้องต้น คือ
1.1  ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 25 ปีบริบูรณ์ (นับตั้งแต่วันเกิด ถึงวันที่ยื่นคำร้อง)
1.2  ต้องมีอายุแก่กว่าเด็กที่จะรับเป็นบุตรบุญธรรม อย่างน้อย 15 ปี
1.3  ต้องเป็นผู้ที่ไม่ต้องห้ามเป็นผู้ปกครองเด็กตามมาตรา 1587 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
                 2. คุณสมบัติทางสังคม
2.1  กรณีขอรับเด็กกำพร้า ควรมีคู่สมรสตามกฎหมาย เพื่อเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์ มีทั้งบิดามารดา และไม่ควรมีอายุห่างจากเด็กมากเกินไป
2.2  มีฐานะการครองชีพและสถานภาพทางเศรษฐกิจที่มั่นคง / มีที่อยู่อาศัยในสิ่งแวดล้อมที่ดี / มีเวลาพร้อมให้กับเด็กที่จะรับเป็นบุตรบุญธรรม
          2.3.2  การรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมของชาวต่างประเทศ  จุดบริการ  ศูนย์อำนวยการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม สถานเอกอัครราชทูต / หน่วยงานสังคมสงเคราะห์ / องค์กรสวัสดิภาพเด็กในต่างประเทศ
                  คุณสมบัติผู้ขอรับบริการ
                   1. ผู้ขอรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 25 ปีบริบูรณ์ และต้องมีอายุมากกว่าเด็กที่จะเป็นบุตรบุญธรรม อย่างน้อย15 ปี
                  2. จะต้องเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติที่จะรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมได้ตามกฎหมายของประเทศที่ผู้ขอรับมีภูมิลำเนาอยู่ ซึ่งมีความสัมพันธ์ทางการทูตกับประเทศไทย กรณีผู้ขอรับฯ ยื่นคำขอในประเทศไทยจะต้องมีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทยอย่างน้อย ๖ เดือน  และมีระยะเวลาสำหรับการทดลองเลี้ยงดูเด็กไม่น้อยกว่าหกเดือน
                  3. ผู้ขอรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมที่มีบุตรอยู่ในความอุปการะ 3 คนขึ้นไป จะมีการพิจารณาคุณสมบัติของผู้ขอฯ
                  4. ต้องไม่เป็นผู้ต้องห้ามเป็นผู้ปกครองเด็กตามมาตรา 1587 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
                  5. กรณีขอรับเด็กกำพร้าควรมีคู่สมรสตามกฎหมาย เพื่อเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์ มีทั้งบิดามารดาและไม่ควรมีอายุห่างจากเด็กมากเกินไป
    2.4  การอนุญาตจัดตั้งสถานรับเลี้ยงเด็กและสถานสงเคราะห์เด็กเอกชน
 กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ มีภารกิจในการส่งเสริมและสนับสนุนให้ภาคเอกชนดำเนินงานสถานรับเลี้ยงเด็กและสถานสงเคราะห์เด็กเอกชน  ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 เพื่อช่วยในการพัฒนาและคุ้มครองสวัสดิภาพ เด็ก / เยาวชน อายุแรกเกิด-18 ปี ให้ได้รับการพัฒนาศักยภาพเหมาะสมตามวัย เพื่อส่งผลให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี โดยการอนุญาตให้จัดตั้งสถานรับเลี้ยงเด็กและสถานสงเคราะห์เด็กเอกชน และสนับสนุนการดำเนินงานโดยการตรวจเยี่ยม ให้คำแนะนำ การพัฒนาบุคลากร อาหารเสริมและสื่อพัฒนาการเด็กตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด เป็นต้น
    2.5  การจัดบริการสถานรับเลี้ยงและพัฒนาเด็กปฐมวัย
 เพื่อเป็นสวัสดิการแก่บุตรหลานข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ของกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ตลอดจนประชาชนทั่วไปที่มีรายได้น้อย เพื่อให้เด็กปฐมวัย (0-6 ปี) ได้รับการอบรมเลี้ยงดูและพัฒนาศักยภาพตามวัยอย่างเหมาะสม 
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ
โทรศัพท์ 02-6596113, 02-6596107
โทรสาร 02-2818211

Share:



Social media & sharing icons powered by UltimatelySocial